การมีฟันที่เรียงตัวสวยงาม เป็นพื้นฐานหนึ่งของการมียิ้มที่สวย และเพิ่มความมั่นใจ การเลือกประเภทการจัดฟันให้เหมาะสมกับตัวคุณจึงมีความสำคัญอย่างมากสำหรับใครหลาย ๆ คน เรามาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าการจัดฟันใส และการจัดฟันเหล็ก แบบไหนดีกว่ากัน? มีความแตกต่างกันอย่างไร? และเหมาะกับใครบ้าง?
วิธีการเคลื่อนที่ของฟันระหว่าง จัดฟันใส vs จัดฟันเหล็ก ต่างกันอย่างไร ?
การจัดฟันใส มีการใช้นวัตกรรมใหม่เข้าร่วม โดยจะมีการสแกนช่องปากหรือ Intraoral Scanner ซึ่งเป็นเครื่องสแกน 3 มิติที่สามารถจำลองภาพฟันของคนไข้ขึ้นมา แล้วนำภาพสแกนที่ได้ไปจำลองการเคลื่อนที่ของฟัน เพื่อทำแผนการรักษา และเพื่อทำชิ้นงานพลาสติกใสให้สัมพันธ์กับแผน โดยที่คนไข้จะใส่เครื่องมือจัดฟันใสที่ถูกทำขึ้น จึงทำให้ฟันเคลื่อนที่ไปตามแผนการรักษาที่ถูกวางไว้โดย Software ตั้งแต่ต้น
การจัดฟันเหล็ก ทันตแพทย์จะวางแผนการรักษาโดยมองจากแบบพิมพ์ฟันเพื่อประเมินว่าควรติดเหล็กจัดฟันที่ตำแหน่งใดของฟัน หลังจากนั้นจึงใส่ลวดเพื่อให้ฟันมีการเคลื่อนที่ โดยภาพรวมแล้วการเคลื่อนที่ของฟันจะเป็นแบบ Pulling Force (แรงดึงที่กระทำต่อฟัน) ส่งผลให้ฟันแบะออก หรือผายออก ภายใต้การควบคุมที่เหมาะสมโดยทันตแพทย์
Lifestyle แบบไหนเหมาะกับการ จัดฟันใส vs จัดฟันเหล็ก ?
การจัดฟันใส เหมาะกับบุคคลหลายกลุ่ม เช่น ดารานักแสดง คนที่เป็นนักพูด กลุ่มคนมีอายุและไม่ต้องการมีเหล็ก กลุ่มคนที่ทำงานโดยต้องใช้การพูดเป็นหลัก หรือบุคคลที่ไม่ต้องการมีเหล็กติดฟัน เป็นต้น
การจัดฟันเหล็ก นั้นเหมาะกับบุคคลที่ไม่มีข้อจำกัดเรื่องความสวยงาม ไม่กังวลเรื่องการทำความสะอาดฟันที่อาจจะต้องใช้เวลานานขึ้น หรือพูดง่าย ๆ คือเหมาะกับบุคคลที่มี Lifestyle แบบสบาย ๆ
ระยะเวลาในการรักษานานเท่าไหร่ระหว่าง การจัดฟันใส vs การจัดฟันเหล็ก ?
การจัดฟันใส แบ่งได้เป็น 2 กรณี
- การจัดฟันใสที่ไม่มีการถอนฟัน สำหรับคนไข้ที่มีฟันซ้อนเกเล็กน้อย เคยจัดฟันมาแล้ว หรือไม่มีการถอนฟันร่วมด้วย โดยส่วนมากจะใช้เวลาในการจัดฟันไม่เกิน 1 ปี
- การจัดฟันใสที่มีการถอนฟัน ในกรณีที่ฟันของคนไข้มีการซ้อนเกมาก รูปปากยื่น และต้องมีการถอนฟันร่วมด้วย อาจจะใช้เวลาถึง 2 ปีในการจัดฟัน
การจัดฟันเหล็ก โดยเฉลี่ยแล้วจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของคนไข้ในการมาพบทันตแพทย์ตามเวลานัดหมายด้วย
ผลลัพธ์ต่างกันไหมระหว่าง การจัดฟันใส vs การจัดฟันเหล็ก ?
ผลลัพธ์ของการจัดฟันทั้ง 2 แบบขึ้นอยู่กับการวางแผนการรักษา และการวินิจฉัยเคสโดยทันตแพทย์ แต่การจัดฟันใสอาจจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าสำหรับคนไข้ที่ไม่ได้มีปัญหาฟันซ้อนเกมาก เนื่องจากดูแลทำความสะอาดง่าย และสามารถออกงานสังคมได้สะดวกกว่า สำหรับคนไข้ที่ดูแลทำความสะอาดฟันได้ไม่ดี หลังจากการจัดฟันเหล็กแล้วอาจจะมีปัญหาฟันผุ หรือโรคเหงือกตามมาได้
ข้อควรระวังระหว่าง การจัดฟันใส vs การจัดฟันเหล็ก
การจัดฟันใส ที่สำคัญคือต้องมีวินัยในการใส่ อย่างน้อย 20 ชั่วโมง/วัน ควรถอดแค่เวลาทานอาหารและแปรงฟัน
การจัดฟันเหล็ก
- ควรมาพบทันตแพทย์ตามเวลาที่นัดหมาย
- ระวังเครื่องมือหลุด
- ควรปฏิบัติตามที่ทันตแพทย์แนะนำ เช่น การเกี่ยว Elastic (การเกี่ยวยาง)
ค่าใช้จ่ายของการจัดฟันแต่ละแบบ
การจัดฟันใส โดยทั่วไปแล้ว ราคาการจัดฟันใส จะอยู่ที่ประมาณ 150,000-200,000 บาท แต่ที่ Dental Life Clinic ราคาเริ่มต้นเพียง 49,000 บาท
การจัดฟันเหล็ก ราคาอยู่ที่ประมาณ 30,000-50,000 บาท แต่ในปัจจุบันมีนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ช่วยให้การจัดฟันเร็วขึ้น ราคาอาจจะอยู่ที่ประมาณ 60,000-100,000 บาท
ได้รู้ถึงข้อแตกต่างของการจัดฟันแต่ละแบบไปแล้ว ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าการจัดฟันใสนั้นมีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อนด้วยนวัตกรรมใหม่ที่มีการใช้ Computer Software เข้ามาช่วยประเมินและวางแผนการรักษา ทำให้การเคลื่อนที่ของฟันนั้นเป็นไปตามแผนการรักษาที่วางไว้ และการจัดฟันใสยังใช้เวลาน้อยกว่า นอกจากนี้แล้วยังง่ายต่อการดูแลทำความสะอาด และไม่ทำให้เสียบุคลิกภาพสำหรับใครที่ต้องออกงานสังคมบ่อย ๆ หรือใช้การพูดในการทำงานเป็นหลัก
สำหรับการจัดฟันใสที่ Dental Life Clinic ราคาเริ่มต้นที่ 49,000 บาท โดยผู้ใช้บริการสามารถผ่อนชำระได้เดือนละ 10,000 บาท ที่คลินิกเรา มีเครื่องมือที่ทันสมัย ครบครัน และสะอาด ปลอดภัย แถมทันตแพทย์ของเรายังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดฟันโดยตรง มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ทุกคนสามารถมั่นใจเลยได้ว่า จัดฟันใสได้สวยดั่งใจแน่นอนค่ะ
ติดต่อสอบถาม นัดหมาย (ฟรี)
เด็นทัลไลฟ์ คลินิก
410 /118 ซอยรัชดาภิเษก 22 ถนนรัชดาภิเษก
แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
โทร : 02-938-9178, 083-070-5955
Line : dentallifeclinic22